ยำหัวปลี อาหารแคลอรี่ต่ำให้ประโยชน์สูง

สมัยก่อนคนไทยจะนำหัวปลีมาปรุงอาหารสำหรับบำรุงน้ำนมของแม่ที่เพิ่งคลอดลูกเพื่อให้มีน้ำนมเพิ่มขึ้นและยังให้สารอาหารสูง บำรุงเลือด เพราะหัวปลีมีธาตุเหล็ก ป้องกันโลหิตจาง โดยเฉพาะคุณแม่ที่สูญเสียเลือดระหว่างคลอด หรือผู้หญิงที่มีประจำเดือนนานซึ่งจะเสียเลือดมากกว่าปกติ การกินหัวปลีจะช่วยบำรุงเลือด ลดอาการหน้ามืดและเวียนศีรษะได้

มีงานวิจัยเกี่ยวกับหัวปลีกับการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลให้คงที่ ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย เนื่องจากมีปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระสูง และเนื่องด้วยการมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงนักวิจัยยังสนใจเรื่องของคุณสมบัติในการต้านเชื้อจุลชีพ เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสด้วย หัวปลียังช่วยให้คลายเครียด ลดความวิตกกังวลลง เพราะมีแร่ธาตุโพแทสเซียม ช่วยลดน้ำหนักเพราะมีใยอาหารสูง คาร์โบไฮเดรตต่ำกว่าผลกล้วยทำให้อิ่มและเต็มอิ่ม นอกจากนี้น้ำปลีกล้วยยังช่วยแก้ร้อนใน และยังมีงานวิจัยเพิ่มเติมถึงคุณสมบัติของหัวปลีในการป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร โดยให้ดื่มน้ำหัวปลีก่อนมื้ออาหาร ในกลุ่มของผู้ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ได้นำหัวปลีมาแปรรูปเป็นเนื้อสัตว์เทียม เพราะมีโปรตีนสูงและมีเนื้อสัมผัสคล้ายกับเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะนำมาทำเนื้อปลาเทียม ผู้ที่เป็นมังสวิรัติจะนิยมมาก โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มประเทศทางยุโรป วัตถุดิบและเครื่องปรุงหัวปลีครึ่งหัว น้ำปลา น้ำมะนาว หอมแดงซอย ข้าวคั่ว พริกขี้หนูแห้งทอด ใบสะระแหน่ ต้นหอม พริกป่น เนื้อหมูสดไม่ติดมัน น้ำตาลปี๊บ วิธีการปรุง หั่นหัวปลีเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วนำไปล้างให้สะอาด ( ล้างหัวปีกับน้ำที่ผสมน้ำมะนาวประมาณ 5 – 10 นาที เพื่อไม่ให้หัวปลีมีสีดำ หรือสีคล้ำ ) ปรุงรสด้วยน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ พริกป่น ไม่ต้องใส่เยอะมาก เพราะเป็นอาการสำหรับคุณแม่มือใหม่ ใส่เนื้อหมูไม่ติดมันที่ลวกจนสุกแล้ว ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยน้ำนาลปี๊บ และน้ำมะนาว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่หอมแดง ต้นหอม และหัวปลี คนให้เข้ากันแล้วชิมรสชาติ โรงหน้าด้วยสะระแหน่และพริกแห้งคั่ว ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

Scroll to Top